การเป็นเจ้าของธุรกิจหรือกิจการที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม นอกจากสถานที่ปฏิบัติงานจะมีขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการทำงานภายในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม จะต้องมีการติดตั้งระบบระบายอากาศที่ช่วยลดความร้อน และกำจัดมลพิษด้านในอาคารได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ พัดลมฟาร์ม หรือ พัดลมอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญกับหน้าที่นี้
แต่สำหรับใครที่กำลังสงสัยระหว่างพัดลมฟาร์มกับพัดลมอุตสาหกรรมแตกต่างกันอย่างไร ทาง Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จักกับพัดลมทั้ง 2 ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างปริมาณลม มีการออกแบบและเลือกใช้วัสดุแบบใด รวมไปถึงสถานที่เหมาะสมกับการนำไปใช้ ถ้าพร้อมแล้วคุณจะต้องไม่พลาดกับบทความนี้!
พัดลมฟาร์มคืออะไร?
หากพูดถึงพัดลมที่นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมภาคการเกษตร ก็คงไม่พ้นพัดลมฟาร์ม เพราะนอกจากพัดลมจะมีขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถสร้างแรงลมในพื้นที่ได้แล้ว ยังถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับสถานที่นั้นอีกด้วย โดยขนาดของใบพัดลมจะมีขนาดใหญ่สูงสุดถึง 50 นิ้ว แต่ประสิทธิภาพของการลดอุณหภูมิในพื้นที่ จะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบในหลายด้าน เช่น ความสูงของอาคาร ทิศทางของลมที่ผ่านตัวอาคาร และความชื้นในพื้นที่ เป็นต้น
พัดลมอุตสาหกรรมคืออะไร?
ในพื้นที่ของโรงงานไม่สามารถขาดพัดลมอุตสาหกรรมได้ เนื่องจากเป็นตัวช่วยที่สำคัญของระบบระบายอากาศ โดยลักษณะของพัดลมอุตสาหกรรมจะไม่แตกต่างกับพัดลมทั่วไปเท่าไหร่นัก เพราะมีการทำงานของมอเตอร์ที่ช่วยให้ใบพัดหมุนจนเกิดกระแสลมขึ้นมา แต่จะมีขนาดที่ใหญ่มากกว่า เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณลมในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และต้องออกแบบพัดลมให้มีฐานที่มั่นคง แข็งแรง ปลอดภัยกับผู้ใช้งาน
พัดลมฟาร์ม VS พัดลมอุตสาหกรรม แตกต่างกันอย่างไร
ก่อนที่จะเริ่มทำการเปรียบเทียบระหว่างพัดลมฟาร์มกับพัดลมอุตสาหกรรม คุณจะต้องเข้าใจก่อนว่าพัดลมฟาร์มถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพัดลมอุตสาหกรรมเช่นกัน แต่มีความแตกต่างกันเพียงไม่กี่จุดดังนี้
การออกแบบและเลือกใช้วัสดุ
พัดลมฟาร์ม
ลักษณะการทำงานของพัดลมฟาร์ม จะมีการนำอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่พื้นที่ได้ค่อนข้างรวดเร็ว เพราะใบพัดมีขนาดตั้งแต่ 22.4, 32, 38, 45 และ 50 นิ้ว เพื่อเจือจางอากาศที่ปนเปื้อนอยู่ภายในอาคารได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นก็จะมีพัดลมอีกตัวที่นำอากาศภายในออกสู่ภายนอก จึงทำให้พัดลมถูกออกแบบมา 2 รูปแบบ คือ ตะแกรงหน้า – ตะแกรงหลัง และ ตะแกรงหน้า – บานเกล็ด
โดยที่คุณไม่ต้องกังวลว่าพัดลมสนิมขึ้นง่าย เพราะใบพัดทำมาจากวัสดุของอะลูมิเนียม นอกจากจะทนทานกับความชื้นหรือสัมผัสกับน้ำได้แล้ว ยังมีน้ำหนักที่เบาอีกด้วย แต่ต้องมีการติดตั้งอย่างเหมาะสม จากการดูทิศของลมที่เข้ามาทางอาคาร เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ติดพัดลมผิดทางจนเกิดการต้านลม ทำให้พัดลมฟาร์มไม่สามารถระบายอากาศได้มีประสิทธิภาพ
พัดลมอุตสาหกรรม
ความสามารถของพัดลมอุตสาหกรรมที่ช่วยสร้างปริมาณลม จะมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ เพื่อความเหมาะสมกับสถานที่หน้างานจริง จึงมีทั้งหมด 3 ประเภท คือ
- พัดลมอุตสาหกรรมแบบเคลื่อนที่ จะถูกออกแบบให้มีลักษณะที่ง่ายต่อการหยิบนำไปใช้ เพราะพัดลมไม่ได้มีความสูง อยู่ในระดับพื้น และบางรุ่นมีล้อเลื่อน ช่วยให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายมากยิ่งขึ้น
- พัดลมอุตสาหกรรมตั้งพื้นแบบมีขา เหมือนพัดลมทั่วไปที่เราใช้งานกัน แต่ตะแกรงจะมีการออกแบบให้ถี่มากกว่าปกติ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานได้รับอันตราย หากมีบางสิ่งที่ไปสัมผัสกับใบพัดโดยตรง
- พัดลมอุตสาหกรรมแบบติดหรือฝังผนัง มีความสามารถในการระบายอากาศได้ โดยไม่ทำให้เกิดการกินพื้นที่หรืออยู่ในตำแหน่งที่ยากต่อการปฏิบัติงาน และป้องกันไม่ให้ชนพัดลมจนได้รับอันตรายอีกด้วย
ซึ่งวัสดุที่นำมาใช้ผลิตพัดลมเป็นการผสมผสานระหว่างเหล็กกับอะลูมิเนียม โดยโครงสร้างที่ทำจากเหล็กจะเคลือบด้วยสีดำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสนิม และส่วนมากใบพัดที่ทำมาจากอะลูมิเนียม ค่อนข้างมีความแข็งแรงทนทาน
อ่านบทความ พัดลมอุตสาหกรรม มีกี่ประเภท เพิ่มเติมได้ที่นี่
การสร้างปริมาณลม
หากนำพัดลมฟาร์มกับพัดลมอุตสาหกรรม มาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างในเรื่องของการสร้างปริมาณลม ทั้งสองสามารถช่วยลดความร้อนสะสมได้ดี ทำให้มีอากาศถ่ายเทมากยิ่งขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดควันหรือมลพิษได้อีกด้วย
โดยพัดลมฟาร์มเกิดจากการทำงานของมอเตอร์มูเล่ย์ (Motor Pulley) ที่ใช้งานร่วมกับสายพาน (Belt) เรียกได้ว่าเป็นการทดกำลังกับรอบ ช่วยให้สร้างปริมาณลมได้สูง แต่มีอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ต่ำ ทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่าพัดลมที่มีการทำงานของมอเตอร์แบบขับตรง (Direct Drive Fan Motor) ถ้ามีการลงทุนติดตั้งพัดลมฟาร์มจะทำให้คืนทุนได้เร็ว
ส่วนการทำงานของพัดลมอุตสาหกรรม จะไม่ได้มีมอเตอร์แบบเดียวกับพัดลมฟาร์ม ที่ต้องใช้งานสายพานร่วมด้วย โดยมอเตอร์มีความแตกต่างกันออกไปต่างประเภทของพัดลมอุตสาหกรรม เช่น มอเตอร์ Class E, มอเตอร์ใช้ระบบลูกปืน หรืออีซีมอเตอร์ เป็นต้น
สถานที่เหมาะสมกับการนำไปใช้
พัดลมฟาร์มและพัดลมอุตสาหกรรมจะนิยมใช้ในสถานที่มีขนาดใหญ่ เพราะพัดลมได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการทำงานในพื้นที่ และมีการเลือกใช้วัสดุคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ทำให้สามารถใช้งานพัดลมได้ในระยะยาว
- พัดลมฟาร์ม เหมาะกับการทำงานภาคเกษตร เช่น โรงเลี้ยงสัตว์ที่ต้องการระบายความร้อน ไม่ทำให้สัตว์เกิดความเครียด และป้องกันการเกิดโรค หรือช่วยควบคุมความชื้นในพื้นที่ ไม่ทำให้พืชที่ปลูกในโรงได้รับความเสียหาย
- พัดลมอุตสาหกรรม มักนำไปใช้ในโรงงาน, คลังสินค้า, โรงอาหาร หรือในพื้นที่มีการปฏิบัติงานที่ส่งผลให้เกิดความร้อนกับมลพิษได้ง่าย จะช่วยให้การทำงานในพื้นที่ผ่านไปได้อย่างราบรื่น
พัดลมฟาร์มสามารถหาซื้อได้ที่ไหน?
หากคุณเป็นคนที่กำลังสนใจกับพัดลมฟาร์มที่ได้มาตรฐาน มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ เพื่อความเหมาะสมกับการสร้างกระแสลมในพื้นที่หน้างาน สามารถติดต่อมาได้ที่ Yushi Group เพราะเราเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจทางด้านระบบระบายอากาศมาอย่างยาวนาน โดยมาพร้อมกับบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา, สำรวจพื้นที่หน้างานให้ฟรี, ออกแบบระบบ, ทำการติดตั้ง, มีอะไหล่สำรอง และดูแลคุณตลอดหลังจากการขาย
สรุปแล้วพัดลมฟาร์มกับพัดลมอุตสาหกรรมแตกต่างกันอย่างไร?
ความสามารถหรือประสิทธิภาพในการทำงานของพัดลมฟาร์มกับพัดลมอุตสาหกรรม ไม่ได้แตกต่างกันมากสักเท่าไหร่ เพราะทั้งคู่สร้างกระแสลมหรือผลิตปริมาณลมในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และเหมาะสมกับการนำไปใช้ในสถานที่มีขนาดใหญ่ แต่ลักษณะของพัดลมจะไม่เหมือน เช่น พัดลมฟาร์มจะถูกติดตั้งกับผนัง ไม่ทำให้เกิดการกินพื้นที่ ซึ่งต้องมีการสำรวจพื้นที่หน้างานก่อนว่า ทิศทางของลมที่เข้ามาทางอาคารอยู่ในจุดไหน
ส่วนพัดลมอุตสาหกรรมบางประเภทสามารถทำการเคลื่อนย้ายได้ ไม่ต้องมีการติดตั้งอยู่กับที่ ช่วยให้การปฏิบัติงานมีความยืดหยุ่น เพราะสามารถย้ายพัดลมไปในจุดที่เราต้องการให้มีอากาศหมุนเวียนได้
สนใจติดตั้งพัดลมฟาร์มคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Yushi Group
Yushi Group ดำเนินธุรกิจด้านการจำหน่าย ออกแบบ และติดตั้ง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้อากาศในพื้นที่ถ่ายเทได้สะดวก และสามารถลดกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ โดยมีพัดลมหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น
- พัดลมยักษ์ มีบริการตรวจสอบโครงสร้างอาคารก่อนการติดตั้ง พร้อมกับวิธีการติดตั้งที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ทำให้ปลอดภัยกับผู้ใช้งาน
- พัดลมอุตสาหกรรม มีหลายรูปแบบ สามารถนำไปใช้ได้ตามความเหมาะสมของงาน เช่น พัดลมใบดำ, พัดลมถังกลม และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ได้รับมาตรฐาน มอก.
- พัดลมไอน้ำ มีคุณภาพได้รับมาตรฐาน มอก. เช่นกัน สามารถเคลื่อนย้ายพัดลมได้สะดวก มีถังน้ำภายในตัว และใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
- พัดลมอีแวป มีหัวจ่ายลมให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม เช่น ด้านข้าง, ด้านล่าง และด้านบน โดยมีทีมงานที่ช่วยออกแบบท่อให้กระจายลมได้ตามที่ต้องการ
ถ้าอยากให้อากาศภายในอาคารเย็นเร็วมากขึ้น สามารถใช้งานพัดลมควบคู่กับ Evaporative Cooler จะช่วยลดความร้อนสะสม ในพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้มีลมเย็นหมุนเวียนในอาคาร สามารถส่งความเย็น ได้อย่างครอบคลุมทั้งพื้นที่ถึง 1,600 ตารางเมตร
ช่วยให้คุณประหยัดพลังงาน และ Yushi Group มีบริการหลังการขายที่พร้อมจะดูแลคุณ เพราะมีอะไหล่สำรองทุกชิ้น ทำให้คุณสามารถใช้งาน พัดลมระบายอากาศ ได้สมบูรณ์ตลอดเวลา
หากต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลของสินค้าและบริการ สามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook: สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักร งานติดตั้งระบบ Evap,Ventilation-Yushi Group
Line@: Yushi Group
YouTube: Yushi Group
E-mail: info@yushi.co.th
Tel: 02-517-0688