ถ้าพูดถึงระบบทำความเย็นในธุรกิจของภาคอุตสาหกรรม จะมี “ระบบอีแวปโรงงาน” เป็นตัวช่วยที่ลดอุณหภูมิในพื้นที่ ไม่ทำให้ภายในอาคารมีอากาศร้อนอบอ้าวมากเกินไป ถือว่าเป็นการควบคุมอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนภายในโรงงาน ส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานของเครื่องจักรและพนักงาน สำหรับใครที่กำลังสนใจระบบอีแวปโรงงาน แต่ไม่รู้ว่ามีลักษณะการทำงานเป็นอย่างไร และระบบอีแวปที่นำมาใช้ในโรงงานจะดีจริงหรือไม่ Yushi Group มีคำตอบให้กับคุณ! ระบบอีแวป คือ ระบบอีแวป (Evaporative Cooling System) เป็นส่วนหนึ่งของระบบทำความเย็นที่คล้ายกับแอร์ แต่จะไม่สามารถให้ความเย็นเทียบเท่ากับแอร์ได้ เพราะหลักการทำงานจะเป็นการดึงน้ำมาใช้ เพื่อสร้างความเย็นในพื้นที่ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่า ถ้านำระบบอีแวปไปใช้งานจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการทำงานในทุกขั้นตอน จะเป็นการนำอากาศจากธรรมชาติมาใช้ควบคู่กับน้ำ และช่วยให้คุณประหยัดพลังงานมากกว่าแอร์ ระบบอีแวปโรงงาน เป็นอย่างไร ? การนำ ‘ระบบอีแวป’ ไปใช้กับโรงงานที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรม จะช่วยให้อุณหภูมิภายในอาคารไม่ร้อนจนเกินไป และมีอากาศหมุนเวียน เพราะการทำงานของเครื่องจักรบางประเภท จะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิของตัวเครื่อง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เช่น มีความร้อนมากเกินไปจนทำให้เครื่องจักรใช้งานไม่ได้ หรือพนักงานที่ต้องทำงานอยู่ในโรงงานที่มีอุณหภูมิสูง จนทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวจนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน จึงทำให้ระบบอีแวปโรงงานถูกออกแบบมา เพื่อให้การติดตั้งช่วยอำนวยความสะดวก และตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น ทำให้ภายในอาคารสามารถจัดการกับความร้อนได้ดี ซึ่งรูปแบบที่นิยมนำไปใช้มี 2 แบบ กระจายลมเย็นเฉพาะจุด
Author Archives: admin
ใครที่กำลังศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับ “พัดลมยักษ์” เพราะมีความสนใจที่จะนำไปติดตั้งในพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นทั้งอาคารเปิดและอาคารปิด ก็คงจะต้องรู้ถึงคุณสมบัติในการทำงานของพัดลมเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่คุณอาจจะสงสัยอยู่ว่า จำนวนของใบพัดลมมีความสำคัญอย่างไร? วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมารู้จักกับส่วนประกอบต่างๆ ของพัดลมยักษ์ ที่ทำให้พัดลมชนิดนี้มีความแข็งแรงมากกว่าพัดลมทั่วไป และจำนวนของใบพัดมีผลอย่างไรต่อการทำงานของพัดลม ส่วนประกอบของพัดลมยักษ์ แกนยึดพัดลมเพดาน วัสดุของแกนมักจะสร้างจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อความร้อนใต้หลังคา และออกแบบฐานให้มีความเหมาะสม เพราะตัวแกนจะเป็นส่วนที่ยึดระหว่างพัดลมกับเพดานเข้าด้วยกัน จึงต้องมีความมั่นคงมากเป็นพิเศษ มอเตอร์ เป็นเหมือนกับหัวใจของพัดลม เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเปิดใช้งาน กระแสไฟฟ้าจะเข้าผ่านสู่มอเตอร์ ส่งผลให้ใบพัดลมหมุน ซึ่งการทำงานของมอเตอร์บางรุ่นจะใช้งานมอเตอร์คู่กับเกียร์ และบางรุ่นไม่ต้องมีเกียร์ โครงพัดลม จะใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง และเหนียว เพื่อป้องกันไม่ให้มอเตอร์หรืออุปกรณ์ส่วนอื่นๆ ที่ทำหน้าที่เป็นแรงให้ใบพัดลมหมุนต้องได้รับความเสียหาย ใบพัดลม สำหรับใบพัดของพัดลมยักษ์ จะเป็นใบพัดที่มีการหล่อขึ้นมาทั้งใบ โดยยึดเข้ากับตัวเครื่องทีละใบ เพื่อความแข็งแรง และความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ตู้คอนโทรล เป็นส่วนที่เอาไว้ควบคุมการทำงานของพัดลม ซึ่งประกอบไปด้วยเบรกเกอร์, สวิตช์เปิด-ปิด, ปุ่มปรับระดับความเร็วของพัดลม, หน้าจอแสดงผล และ Emergency stop พัดลมยักษ์มีกี่แบบ? ถ้าเปรียบเทียบกันในเรื่องของลักษณะพัดลม จะมีดีไซน์ในบางส่วนที่แตกต่าง และมีจำนวนใบพัดที่ไม่เท่ากัน
ในอาคารหรือพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่มักจะเกิดอุณหภูมิสูงอยู่เป็นประจำ การติดตั้งพัดลมยักษ์จะช่วยระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว และทำให้มีอากาศหมุนเวียนไม่รู้สึกว่าแออัด ซึ่งพัดลมยักษ์จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ พัดลมเพดานยักษ์ กับพัดลมยักษ์ตั้งพื้น สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า ‘พัดลมเพดานยักษ์กับพัดลมยักษ์ตั้งพื้น’ แตกต่างกันอย่างไร วันนี้ Yushi Group จะมาเปรียบเทียบให้คุณได้เห็นกันแบบชัดๆ ว่าพัดลมยักษ์รูปแบบไหนจะคุ้มค่าและตอบโจทย์ต่อการใช้งานกับคุณมากที่สุด! พัดลมเพดานยักษ์ ถ้าพูดถึงลักษณะของพัดลมเพดานยักษ์ จะเหมือนกับ ‘พัดลมเพดาน’ ทั่วไปที่ใช้กันตามบ้าน โดยการติดตั้งพัดลมจะถูกแขวนอยู่ใต้หลังคาเป็นแนวดิ่งลงมา แต่ใบพัดจะมีขนาดใหญ่มากกว่า เพราะเส้นผ่าศูนย์กลางยาวสูงสุดถึง 7 เมตร และใบพัดถูกออกแบบให้คล้ายกับใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ พัดลมยักษ์ตั้งพื้น พัดลมยักษ์ตั้งพื้นจะถูกออกแบบให้คล้ายกับ ‘พัดลมตั้งพื้นปรับแหงน’ และสามารถปรับแหงนขึ้น-ลงได้เช่นกัน แต่จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางของใบพัดยาวถึง 7 เมตร การติดตั้งค่อนข้างง่ายสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เพราะมีล้อเลื่อนเป็นขาและมีที่ล็อกล้อ ไม่ต้องกังวลว่าเปิดใช้งานแล้วพัดลมจะเคลื่อนที่ ความแตกต่างระหว่าง พัดลมเพดานยักษ์ และ พัดลมยักษ์ตั้งพื้น ส่วนประกอบของพัดลม หลักการทำงานของพัดลมจะเป็นการสร้างกระแสลมขึ้นมา โดยลมที่สามารถเกิดขึ้นได้จะต้องมีส่วนประกอบ 2 สิ่ง คือ มอเตอร์และพัดใบ แต่การออกแบบของพัดลมจะมีความแตกต่างกันออกไป จึงทำให้มีส่วนประกอบอื่นๆ เข้ามาเสริม คือ ส่วนประกอบของพัดลมเพดานยักษ์
ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิในพื้นที่ ไม่ให้มีความร้อนสะสม จนส่งผลกระทบกับพืชหรือสัตว์เลี้ยงในโรงเรือน จึงทำให้หลายๆ ที่มีการนำระบบอีแวปเข้ามาใช้ เพื่อลดอุณหภูมิให้เย็นลง สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า “โรงเรือนอีแวป คือ” อะไร และมีหน้าที่การทำงานเป็นอย่างไร วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมารู้จักกับโรงเรือนอีแวป นอกจากจะช่วยระบายความร้อนได้ดีแล้ว ลักษณะของโรงเรือนมีรูปแบบไหนบ้าง และทำไมถึงเป็นระบบที่นิยมนำมาใช้กับโรงเรือน โรงเรือนอีแวป คือ ? ก่อนที่จะเริ่มทำความรู้จักกับโรงเรือนอีแวป คุณจะต้องรู้ก่อนว่า ‘ระบบอีแวป’ คือ ระบบที่ช่วยทำความเย็น โดยมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก ที่ทำให้เกิดการระเหยของน้ำไปดักจับกับความร้อน เพื่อให้มีอากาศที่เย็นมากขึ้น ถือว่าเป็นระบบที่สามารถนำมาใช้ทดแทนแอร์ได้ โดยที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ ได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็น ค่าระบบ, ค่าไฟ และค่าซ่อมบำรุง โดยการสร้างโรงเรือนอีแวป จะเป็นการนำระบบอีแวปเข้ามาใช้กับโรงเรือน ซึ่งพื้นที่ภายในจะต้องเป็นระบบปิด เพื่อควบคุมความชื้นกับอุณหภูมิเอาไว้ และอากาศที่ระบบนำเข้ามาเป็นอากาศบริสุทธิ์ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีสารเคมีปนเปื้อน ควรทำโรงเรือนรูปแบบไหน การสร้างโรงเรือนอีแวปจะมีรูปแบบหรือลักษณะที่ไม่เหมือนกัน เพราะจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนำไปใช้งาน ที่ต้องคำนึงถึงภูมิอากาศ และงบประมาณในการสร้าง โดยรูปแบบของหลังคาที่นิยมใช้กัน คือ หลังคาทรงจั่ว ถือว่าเป็นหลังคาทรงมาตรฐาน สามารถสร้างโรงเรือนให้มีขนาดใหญ่ได้ตามที่ต้องการ
ใครที่กำลังอยากจะนำ “พัดลมอุตสาหกรรม” ไปใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่แทนพัดลมทั่วไป เพราะมีความสามารถในการสร้างกำลังลมได้ดี ส่งผลให้ลมกระจายทั่วทั้งพื้นที่ เพื่อช่วยระบายความร้อนในอากาศ และมีออกซิเจนหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น แต่ไม่รู้ว่าพัดลมอุตสาหกรรมมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมารู้จักกับพัดลมอุตสาหกรรมแบบเบื้องต้น รวมไปถึงสิ่งที่ควรจะรู้เกี่ยวกับพัดลมอุตสาหกรรมแต่ละประเภท เพื่อให้คุณสามารถนำไปใช้งานได้เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลยดีกว่า! การทำงานของพัดลมอุตสาหกรรม ? พัดลมอุตสาหกรรมมีลักษณะเหมือนพัดลมทั่วไป ที่มีโครง, มอเตอร์ และใบพัดเป็นองค์ประกอบหลัก แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของขนาด โดยใบพัดจะมีหน้ากว้างมากกว่า จึงมีการออกแบบพัดลมให้มีฐานที่มั่นคง สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย และวัสดุที่ใช้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน หากนำพัดลมทั่วไปกับพัดลมอุตสาหกรรม มาเปรียบเทียบกันในเรื่องของกำลังลม แน่นอนอยู่แล้วว่าพัดลมอุตสาหกรรมสามารถสร้างกำลังลมได้ดีมากกว่า ช่วยลดอุณหภูมิที่ร้อนให้ลงได้อย่างรวดเร็ว ประโยชน์ของพัดลมอุตสาหกรรมที่คุณควรรู้ ช่วยระบายอากาศ เพราะใบพัดมีขนาดใหญ่มากกว่าพัดลมทั่วไป และมีรอบการหมุนที่รวดเร็ว จึงทำให้กระแสลมแรง ช่วยพัดนำความร้อนออกจากพื้นที่ได้ เป็นการลดความร้อนที่สะสมอยู่ กำจัดมลพิษ ถ้าหากเป็นพื้นที่ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือฟาร์ม ที่มักจะมีละอองฝุ่น, กลิ่นสารเคมี และกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ต่างๆ การนำพัดลมอุตสาหกรรมไปใช้จะช่วยกำจัดกลิ่นเหล่านั้น ไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้ที่อยู่ในพื้นที่หน้างานอีกด้วย ปลอดภัยกับผู้ใช้งาน เนื่องจากพัดลมอุตสาหกรรม จะต้องมีการเปิดใช้งานอยู่เกือบตลอดเวลา จึงทำให้ตะแกรงของใบพัดออกแบบมาถี่มากขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายจากใบพัด หรือมีเทอร์โมฟิวส์ที่ช่วยตัดไฟจากกระแสไฟเกิน ไม่ให้เกิดอันตรายจากอัคคีภัย
หากใครที่กำลังสนใจ “พัดลมยักษ์” เพราะเห็นว่ามีคุณสมบัติเด่นๆ ในเรื่องของการระบายอากาศ เพื่อแก้ปัญหาความร้อนที่สะสมอยู่ภายในพื้นที่ขนาดใหญ่ ช่วยให้มีลมหมุนเวียน และสามารถกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่ แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจที่จะซื้อ เพราะไม่มั่นใจว่าจะคุ้มค่าต่อการใช้งานหรือไม่ วันนี้ Yushi Group มี 5 เหตุผลที่คุณต้องรู้ว่า พัดลมยักษ์มีจุดเด่นในเรื่องใดบ้าง เพื่อเป็นตัวช่วยคุณประกอบการตัดสินใจ สามารถนำพัดลมไปใช้ได้เหมาะสมต่อการใช้งาน 5 เหตุผล ที่คุณต้องมี ‘พัดลมยักษ์’ ในอดีตพัดลมยักษ์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “พัดลมอุตสาหกรรม” เพราะภายในโรงงาน, โกงดังสินค้า และพื้นที่ในภาคอุตสาหกรรม ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอาคารเปิดโล่งหรืออาคารปิด จะมีการนำพัดลมยักษ์ไปใช้เพื่อให้เกิดการระบายอากาศมากยิ่งขึ้น แต่ปัจจุบันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะพัดลมยักษ์มีความสำคัญต่อธุรกิจประเภทอื่นๆ อย่างเช่น หอประชุม, โรงยิม และโรงเรียน เป็นต้น เนื่องจากมีความสามารถที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 เหตุผล คือ 1 – ลดอุณหภูมิ ระบายอากาศได้ดี ขึ้นชื่อว่าพัดลมยักษ์ ที่อยู่ในระบบพัดลมระบายอากาศ จึงทำให้มีความสามารถในการลดอุณหภูมิ และระบายอากาศได้ดี เพราะการติดตั้งพัดลมจะอยู่ภายใต้หลังคา เมื่อไหร่ที่ใบพัดหมุนจะเป็นการระบายไอร้อนที่สะสมอยู่ ซึ่งทิศทางของลมจะเริ่มจาก
พัดลมยักษ์ในวงการอุตสาหกรรม ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของขนาดที่ใหญ่เท่านั้น เพราะเป็นพัดลมที่สามารถทำให้มีปริมาณของลมไหลเวียนภายในอาคารสูง แม้จะมีรอบในการหมุนของใบพัดที่ค่อนข้างต่ำ จึงทำให้คุ้มค่าต่อการลงทุนที่นำไปใช้งาน โดย “พัดลมยักษ์ ราคา” จะแตกต่างกันออกไปตามรุ่นและขนาด วันนี้ Yushi Group จะพามาทำความรู้เกี่ยวกับพัดลมยักษ์ว่า แต่ละแบบหรือแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างไร และราคาจะอยู่ประมาณที่เท่าไหร่ ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมๆ กันเลย! บทบาทที่สำคัญของพัดลมยักษ์ “พัดลมยักษ์” ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในระบบของพัดลมระบายอากาศ ที่ช่วยให้อากาศภายในพื้นที่ เกิดการถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับอาคารขนาดใหญ่อย่าง โรงงานอุตสาหกรรม, คลังสินค้า, หอประชุม หรือในบริเวณที่มีผู้คนสัญจรไปมา การใช้งานพัดลมยักษ์จะทำให้เกิดลมในปริมาณที่มาก เป็นการช่วยให้มีอากาศหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น สามารถระบายความร้อนได้ดี ลดไอร้อนจากเครื่องจักรที่กำลังทำงาน และไม่ทำให้คนที่อยู่ภายในพื้นที่รู้สึกแออัดจากการขาดออกซิเจนได้อีกด้วย ซึ่งการใช้งานพัดลมยักษ์สามารถใช้ควบคู่กับระบบทำความเย็น ที่เหมาะกับอาคารขนาดใหญ่อย่าง Evaporative Cooling System เพื่อใช้ลมให้พัดนำความร้อนออกไป แล้วทดแทนด้วยความเย็นที่ถูกผลิตขึ้นมาจากอากาศบริสุทธิ์ ถือว่าเป็นการใช้งานร่วมกันที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพของการใช้งานมากยิ่งขึ้น Yushi ที่หนึ่งด้านพัดลมระบายอากาศ Yushi เป็นที่หนึ่งในด้านระบบพัดลมระบายอากาศ โดยเรามีพัดลมยักษ์, พัดลมอุตสาหกรรม, พัดลมไอน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีการนำเทคโนโลยีกับนวัตกรรมมาใช้ เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงาน หรือ “Saving
ภายในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ ไม่ให้มีความร้อนที่สูงจนเกินไป การเลือกใช้ระบบ Evap หรือ Evaporative ในโรงงาน นอกจากจะทำความเย็นให้ภายในพื้นที่แล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า “Evap คือ อะไร” และมีหน้าที่การทำงานเป็นอย่างไร วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมารู้จักกับระบบ Evap ให้มากยิ่งขึ้น เพราะอะไร ทำไมถึงมีอัตราการใช้ไฟที่น้อยกว่า Air Conditioner และ Evap แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่คุณจะได้นำไปใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด Evap คือ ? Evap (Evaporative Cooling System) หรือภาษาที่เรียกกันทั่วไปว่า “พัดลมอีแวป” คือระบบทำความเย็นประเภทหนึ่ง ที่สามารถนำไปใช้ได้กับอาคารแบบเปิด และแบบปิดที่มีขนาดใหญ่ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายใต้อาคารให้เย็นมากขึ้น โดยลมที่หมุนเวียนนั้น เป็นอากาศจากธรรมชาติ มีหลักการทำงานเป็นอย่างไร “พัดลมอีแวป” จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก โดยการทำงานจะเริ่มจากการที่ น้ำในถังจะถูกส่งไปยังแผงกระจายน้ำ เพื่อให้แผ่นทำความเย็นมีน้ำไหลเวียน เมื่อใบพัดลมหมุนทำงาน จะเป็นการนำลมร้อนพัดผ่านแผ่นทำความเย็น ให้เกิดปฏิกิริยาการระเหยของน้ำในการสร้างความเย็น
ใครที่กำลังสนใจสินค้าที่ช่วยเกี่ยวกับการระบายอากาศอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ “พัดลมอุตสาหกรรมยี่ห้อไหนดี” เพราะในตอนนี้มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ ที่นอกจากที่ช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้งานแล้ว ยังมีความแข็งแรง และสามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์อีกด้วย ไม่จำเป็นเลยว่าต้องใช้ภายในโรงงานอุตสาหกรรมเสมอไป วันนี้ Yushi Group จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีในการเลือกพัดลมอุตสาหกรรม เป็นการประเมินวัตถุประสงค์ของการใช้งานแบบเบื้องต้น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกพัดลม และสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พัดลมอุตสาหกรรม คืออะไร? พัดลมอุตสาหกรรม มีหลักการทำงานที่เหมือนกับพัดลมทั่วไป แต่มีความโดดเด่นในเรื่องของใบพัด ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ และนอกจากใบพัดจะมีหน้ากว้างกว่าพัดลมทั่วไปแล้ว ยังมีการออกแบบ และใช้วัสดุ ที่ทำให้โครงสร้างมีฐานที่มั่นคง แข็งแรง สามารถทนแรงกระแทกได้ดีอีกด้วย เพื่อความปลอดภัยกับผู้ใช้งาน และช่วยสร้างแรงลมในปริมาณมาก ทำให้ในพื้นที่นั้นๆ มีการระบายอากาศได้ดี ส่วนมากจะนิยมนำไปใช้ภายในโรงงาน, โรงอาหาร, โกดัง และในพื้นที่กว้างอื่นๆ อีกมากมาย วิธีในการเลือกพัดลมอุตสาหกรรม ก่อนที่จะเลือกว่า ควรจะใช้พัดลมอุตสาหกรรมยี่ห้อไหนดี คุณจะต้องรู้วิธีในการเลือกพัดลมก่อน เพราะถ้าหากคุณตัดสินใจได้แล้วว่า อยากจะได้พัดลมยี่ห้อไหน แต่พอซื้อมาใช้งานจริงกลับกลายเป็นว่า คุณสมบัติของพัดลมตัวนั้นที่อยากได้ กลับไม่ตอบโจทย์ของการใช้งาน ก็จะทำให้เสียเวลา และเสียเงินไปโดยสูญเปล่า โดยวิธีในการเลือกหลักๆ คือ เลือกขนาดที่เหมาะสม ปกติแล้วขนาดของพัดลมอุตสาหกรรม โดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 18
พัดลม ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่ง ที่มีหลักการทำงานจากมอเตอร์ เป็นตัวขับเคลื่อนให้ใบพัดหมุน เพื่อดูดอากาศเข้า และปล่อยออกมาเป็นแรงลม เพื่อช่วยให้มีอากาศหมุนเวียนในบริเวณนั้นได้ดีมากยิ่งขึ้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากพัดลมทั่วไปที่ใช้กันภายในบ้านแล้ว ยังมีพัดลมอุตสาหกรรมหรือพัดลมขนาดใหญ่ ที่คุณเองก็สามารถนำไปใช้งานได้เช่นกัน สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า “พัดลมอุตสาหกรรม คือ อะไร?” และมีคุณสมบัติในการใช้งาน ที่แตกต่างกับพัดลมธรรมดาอย่างไร วันนี้ Yushi Group จะพาคุณไปหาคำตอบ! พัดลมอุตสาหกรรม คือ ? พัดลมขนาดใหญ่หรือพัดลมโรงงาน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มักจะนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่มีบริเวณกว้าง ทำให้การใช้งานพัดลม เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะพัดลมที่มีขนาดใหญ่ จะมีการออกแบบโครงสร้างที่เฉพาะ และเลือกใช้วัสดุคุณภาพ เพื่อทำให้พัดลมมีความแข็งแรง หากเปรียบเทียบกับพัดลมที่ใช้งานกันทั่วไป ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่จะช่วยตอบโจทย์ของการนำไปใช้งาน ในเรื่องของความทนทาน และสามารถใช้งานได้ในระยะยาว หลักการทำงานของพัดลม สำหรับพัดลมอุตสาหกรรม จะมีหลักการทำงานที่เหมือนกับพัดลมทั่วไป ทำให้มีลมพัดผ่าน จะได้มีลมหมุนเวียนมากขึ้น ช่วยระบายความร้อน และกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ จึงทำให้ลักษณะของพัดลมอุตสาหกรรมมีขนาดใหญ่ เพื่อจะได้ส่งแรงลมได้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังให้ความใส่ใจในการออกแบบ และวัสดุที่นำมาใช้ เพื่อตอบโจทย์เวลานำไปใช้งานจริง เพราะในโรงงานอุตสาหกรรม จะมีการทำงานของเครื่องจักร หรือพนักงานที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ