Author Archives: admin

ดูแล ระบบ Evap อย่างไร? ให้คุ้มค่า ประหยัด ใช้งานได้นาน

ระบบ Evap เป็นระบบทำความเย็นที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถทำความเย็นได้เทียบเท่ากับแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ โดยความเย็นที่เกิดขึ้นจะมาจากน้ำเป็นหลัก ทำให้คุณได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะไร้สารทำความเย็น ที่เป็นต้นเหตุของภาวะเรือนกระจก จึงกลายเป็นระบบที่ใครหลายคนต่างให้ความสนใจ หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่สนใจ และอยากใช้งานพัดลมอีแวปในระยะยาว แต่ไม่รู้ว่ามีวิธีในการดูแลอย่างไรบ้าง วันนี้ Yushi Group ขอแนะนำวิธีในการดูแลระบบ Evap ที่ทำให้คุณได้เข้าใจเกี่ยวกับหลักการทำงานของระบบมากยิ่งขึ้น จะได้นำไปใช้งานได้เหมาะสมกับงาน และใช้งานได้เป็นเวลานาน   หลักการทำงานของระบบ Evap ระบบอีแวปหรือพัดลมอีแวป (Evaporative Cooling System) จะมีกระบวนการสร้างความเย็นจากน้ำ จึงทำให้ตัวเครื่องของระบบถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งประกอบไปด้วย ถังบรรจุน้ำ, ปั๊มน้ำ, รางน้ำ, แผ่นทำความเย็น, แผ่นกรองอากาศ และใบพัด โดยมีวิธีการทำงานดังนี้ เมื่อไหร่ที่เริ่มทำการเปิดใช้งานระบบ ‘ใบพัด’ ที่อยู่ด้านในก็จะหมุน เพื่อเป็นการดูดอากาศร้อนเข้ามาในตัวเครื่อง โดยอากาศเหล่านั้นจะผ่าน ‘แผ่นกรองฝุ่น’ ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งการทำงานของใบพัดจะทำงานควบคู่กับ ‘ปั๊มน้ำ’ เพราะเป็นการลำเลียงน้ำที่อยู่ภายใน ‘ถังบรรจุน้ำ’ ไปยัง ‘รางน้ำ’ เพื่อทำให้มีน้ำหมุนเวียนอยู่ภายในแผ่นทำความเย็น เวลาที่อากาศหรือกระแสลมร้อนพัดผ่าน ‘แผ่นทำความเย็น’ ที่มีความชื้นสะสมอยู่ ก็จะเกิดการระเหยของน้ำเป็นอณูขนาดเล็กถูกใบพัดเป่าออกมา

พัดลมยักษ์ ติดตั้งที่บ้านได้ไหม? ตรวจสอบจากองค์ประกอบใดบ้าง

ในปัจจุบันนี้มีหลายคนที่เริ่มรู้จักกับ พัดลมยักษ์ มากยิ่งขึ้น ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ พัดลมอุตสาหกรรม ที่นิยมนำไปใช้ในพื้นที่ของโรงงาน เพื่อให้ภายในมีอากาศที่หมุนเวียน ไม่เกิดการแออัด หรือความร้อนสูงมากเกินไป จนอาจทำให้ใครบางคนเกิดความสงสัยหรือความสนใจ อยากจะนำพัดลมยักษ์ไปใช้งานที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าสามารถติดตั้งได้หรือไม่ วันนี้ Yushi Group จะมาอธิบายเกี่ยวกับพัดลมยักษ์ ในเรื่องของหลักการทำงานที่ทำให้เกิดประโยชน์ในด้านใดบ้าง และถ้าต้องการนำไปติดตั้งที่บ้าน จะมีปัจจัยในเรื่องใดที่ต้องคำนึง ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านบทความนี้กันเลย!   ประโยชน์ของการใช้งานพัดลมยักษ์ พัดลมยักษ์จะมีวิธีการติดตั้งกับเพดาน ทำให้พัดลมอยู่ในแนวดิ่งลงมา เป็นการสร้างกระแสลมจากด้านบนลงสู่ด้านล่าง โดยมีขนาดของใบพัดที่ยาวและถูกออกแบบให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถผลิตปริมาณลมได้อย่างดีเยี่ยม กลายเป็นพัดลมที่มีประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การลดอุณหภูมิ เนื่องจากการติดตั้งของพัดลมที่อยู่ใต้หลังคา จะเป็นการช่วยระบายความร้อนที่สะสมอยู่ด้านบนออกไปสู่ด้านนอก ด้วยทิศทางของลมที่ตกกระทบลงสู่พื้น และไหลผ่านไปยังหน้าต่างหรือประตู นอกจากการลดอุณหภูมิแล้ว สามารถลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ภายในพื้นที่ได้ ใช้งานได้ในระยะยาว การผลิตพัดลมยักษ์จะมีการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง เพื่อให้พัดลมมีความแข็งแรง สามารถใช้งานได้ในระยะยาว จะได้คุ้มค่าต่อการลงทุน จึงทำให้ใบพัดทำจาก ‘แผ่นอะลูมิเนียม’ หรือ ‘พอลิเมอร์คอมโพสิต‘ เพื่อลดโอกาสของการแตกหัก และมีคุณสมบัติที่สัมผัสกับอุณหภูมิสูงได้ ประหยัดค่าใช้จ่าย ถึงแม้ว่าการเลือกซื้อพัดลมยักษ์มาใช้งาน จะทำให้เกิดการลงทุนที่สูงในระดับหนึ่ง แต่หลังจากที่นำไปใช้งานไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่ตามมา เพราะมีอัตราในการใช้ไฟที่น้อย ช่วยประหยัดพลังงาน และมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ต่ำ แทนการใช้งานพัดลมหลายตัว

งบไม่พอ! ซื้อ พัดลมยักษ์ มือ 2 ได้ไหม? ต่างกับมือ 1 อย่างไรบ้าง

เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ต้องการนำ “พัดลมยักษ์” ไปใช้งานในพื้นที่ดำเนินธุรกิจของตัวเอง แต่มีงบประมาณในการลงทุนค่อนข้างจำกัด จึงทำให้พัดลมยักษ์มือ 2 เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่กำลังสนใจพัดลมมือ 2 แต่มีความกังวลเกี่ยวกับคุณสมบัติบางส่วน ซึ่งอาจเทียบกับพัดลมมือ 1 ไม่ได้ วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จักกับพัดลมยักษ์ว่ามีหน้าที่การทำงานอย่างไร และคุณสมบัติใดบ้างที่พัดลมยักษ์ควรจะมี เพื่อเป็นการช่วยให้คุณได้เห็นความแตกต่างระหว่างพัดลมมือ 1 กับมือ 2 มากยิ่งขึ้น   พัดลมยักษ์มีหน้าที่การทำงานอย่างไร? พัดลมยักษ์จะมีหลักการทำงานของมอเตอร์แบบ HVLS (High Volume Low Speed) เพราะใบพัดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดถึง 7 เมตร ถือว่าเป็นใบพัดขนาดใหญ่ เมื่อไหร่ที่มอเตอร์เริ่มทำงานก็จะหมุนในรอบที่ต่ำ แต่สามารถสร้างปริมาณลมได้เป็นอย่างดี ช่วยให้มีกระแสลมครอบคลุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ 1,000 ตารางเมตร เป็นต้นไป ซึ่งการออกแบบของใบพัดเป็นตัวช่วยเสริมที่สามารถสร้างปริมาณลมได้ดีมากยิ่งขึ้น แถมคุณยังสามารถเปิดใช้งานพัดลมยักษ์ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลกับค่าไฟฟ้า เพราะมอเตอร์ใช้พลังงานค่อนข้างต่ำ จึงช่วยให้คุณประหยัดไฟด้วยอีกต่างหาก   พัดลมยักษ์ มือ 2 ต่างกับมือ 1 อย่างไร? การเลือกซื้อพัดลมยักษ์ไม่ว่าจะเป็นมือ 1

อุปกรณ์ Evap มีอะไรบ้าง? ทำเองได้หรือไม่

หากคุณกำลังสนใจอยากจะนำพัดลมอีแวป ไปใช้งานในพื้นที่ของงานอุตสาหกรรมหรืองานกิจกรรมทั่วไป ที่มีอากาศร้อนและเปิดโล่ง เพื่อเป็นการสร้างความเย็นที่ช่วยลดอุณหภูมิในพื้นที่ โดยต้องการลดต้นทุนด้วยการทำพัดลมอีแวปเอง แต่ไม่รู้ว่า “อุปกรณ์ Evap มีอะไรบ้าง?” วันนี้ Yushi Group ขอแนะนำการทำงานของระบบอีแวปให้คุณได้รู้จัก เพื่อเป็นการช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของระบบได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้าง และถ้าหากอยากจะทำพัดลมอีแวปเองจะสามารถทำได้หรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านบทความนี้กันเลย!   การทำงานของพัดลมอีแวป พัดลมอีแวปถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบทำความเย็น ที่มีคุณสมบัติในการสร้างปริมาณลมได้อย่างเหมาะสม และลมที่ถูกปล่อยออกมาจะมีความเย็นในระดับหนึ่ง แต่การสร้างความเย็นไม่สามารถเทียบได้กับแอร์ เพราะการทำงานของพัดลมอีแวปเป็นการนำน้ำมาใช้ ซึ่งมีกระบวนการทำงานดังนี้ การทำงานของพัดลมเป็นการนำความร้อนมาแปรสภาพ ให้กลายเป็นความเย็นด้วยไอระเหยของน้ำ ที่มีการดึงความร้อนเข้าสู่ตัวเครื่อง ความร้อนที่เข้ามาภายในตัวเครื่องจะผ่านแผ่นทำความเย็น (Cooling Pad) ที่มีน้ำไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา จากการทำงานของปั๊มน้ำที่ดึงน้ำมาใช้อย่างสม่ำเสมอ ลมร้อนหรือลมธรรมชาติที่ผ่านแผ่นทำความเย็น จะทำให้เกิดปฏิกิริยาจากการระเหยของน้ำ กลายเป็นละอองขนาดเล็กที่สร้างความเย็นได้ทั่วทั้งพื้นที่ การสร้างความเย็นของพัดลมอีแวป นอกจากจะช่วยลดอุณหภูมิภายในพื้นที่ได้เป็นยังดี ยังมีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการนำน้ำเปล่าที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใดๆ มาใช้ และมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงต่ำ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีงบประมาณอย่างจำกัดในการสร้างระบบทำความเย็น   อุปกรณ์ Evap มีอะไรบ้าง? การติดตั้งระบบทำความเย็นอย่างอีแวป (Evap) จะต้องมีการใช้งานอุปกรณ์หลัก ที่เป็นตัวช่วยในการทำให้พัดลมสามารถควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้สามารถสร้างความเย็นได้อย่างตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน   1 –

ทำไมถึงต้องติดตั้ง ระบบระบายอากาศในโรงงาน? มีอะไรบ้าง

อากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ และจะต้องมีแก๊สออกซิเจนอยู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อการหายใจ ซึ่งภายในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการปฏิบัติงาน จะทำให้อากาศได้รับสิ่งปนเปื้อนจนทำให้กลายเป็นพิษ จึงต้องมี “ระบบระบายอากาศในโรงงาน” เพื่อช่วยให้มีอากาศหมุนเวียนภายในอาคารได้ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าทำไมโรงงานต้องมีการติดตั้ง และการทำงานมีอะไรบ้าง วันนี้ Yushi Group จะมาแนะนำระบบระบายอากาศให้คุณได้รู้จัก เผื่อใครที่กำลังเป็นผู้ประกอบการและต้องทำการก่อสร้างโรงงาน จะได้ไม่พลาดกับการวางระบบของอากาศ!   ระบบระบายอากาศ คืออะไร? การก่อสร้างอาคารหรือโรงงานแบบปิด จะไม่มีกระแสลมพัดผ่านภายในพื้นที่ นอกจากพนักงานจะหายใจไม่สะดวก รู้สึกไม่สบายตัวกับการทำงาน แล้วยังมีปัญหาเรื่องของสุขภาพตามมาอีกด้วย จึงทำให้ระบบระบายอากาศมีบทบาทสำคัญ ที่นอกจากจะลดความร้อนภายในพื้นที่ ยังมีหน้าที่ทำให้อากาศมีการหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น หลักการทำงานของระบบระบายอากาศ จะเป็นการนำกระแสลมของอากาศบริสุทธิ์เข้ามาภายในอาคาร เพื่อที่จะได้เป็นการไล่อากาศที่สะสมออกสู่ด้านนอก โดยระบบระบายอากาศจะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบธรรมชาติ (Natural Ventilation) มีการไหลเวียนของอากาศที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยโครงสร้างของอาคารต้องมีการสร้างทางเข้า – ทางออก เพื่อให้มีการเคลื่อนตัวของอากาศหรือกระแสลมปริมาณสูงผ่านเข้าสู่อาคาร และกระแสลมจะไหลไปยังทางออกในปริมาณลมที่ต่ำ เนื่องจากการทำงานของระบบจะใช้ลมแบบธรรมชาติ จึงไม่สามารถควบคุมกระแสลมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับการระบายอากาศได้ แบบวิธีทางกล (Mechanism Ventilation) จะมีลักษณะของการทำงานเช่นเดียวกับแบบธรรมชาติ ที่ต้องมีทางเข้า – ทางออก เพื่อระบายอากาศออกนอกอาคาร แต่จะแตกต่างกันตรงที่ภายในอาคาร ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่เป็นตัวช่วยเสริมของการระบายอากาศ อย่างเช่น

เครื่องดูดควันเชื่อม คืออะไร? มีกี่ประเภท Yushi มีคำตอบ

ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการทำงานของเครื่องจักรและมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตอาหาร, ก๊าซที่เกิดจากงานผลิตพลาสติก และงานโลหะที่มีการเชื่อมหรือการเจียร เป็นต้น มักจะทำให้เกิดทั้งมลพิษและความร้อน จึงทำให้ “เครื่องดูดควันเชื่อม หรือ เครื่องดูดควัน” เป็นตัวช่วยในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนเหล่านั้นให้หมดไป วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จักกับคุณสมบัติของเครื่องดูดควันว่ามีความสำคัญอย่างไร และตัวเครื่องมีทั้งหมดกี่ประเภท เพื่อที่คุณจะได้นำเครื่องไปใช้ได้เหมาะสมกับพื้นที่หน้างาน และสามารถลดมลพิษได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด   ความสำคัญของเครื่องดูดควันเชื่อม การปฏิบัติงานในพื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรมก็คงไม่พ้นงานเชื่อมที่สามารถทำให้โลหะประกอบติดกัน หรือจะทำการตัดโลหะเพื่อนำไปดัดแปลงให้อุปกรณ์เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งงานเชื่อมมักจะทำให้เกิดควันหรือก๊าซพิษ อย่าง สารตะกั่วหรือโลหะออกไซด์, ก๊าซไนโตรเจน และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นต้น โดยสารเหล่านี้สามารถปะปนอยู่ในอากาศ หากปล่อยให้เกิดการสะสมในระยะยาวย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานโดยตรง เพราะอากาศที่ใช้หายใจจะมีสิ่งปนเปื้อน เป็นอันตรายต่อปอด, เกิดการระคายเคืองทางตากับจมูก และมีโอกาสที่จะทำให้คุณหมดสติได้ จึงทำให้หน้าที่ของเครื่องดูดควันเชื่อมไม่ใช่แค่ลดความร้อนเท่านั้น แต่ยังช่วยกำจัดมลพิษออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด เนื่องจากการทำงานของตัวเครื่องจะเป็นการดูดควันตั้งแต่ต้นทาง เพื่อเป็นการลดโอกาสในการกระจายของควันและก๊าซ   เครื่องดูดควันเชื่อม มีกี่ประเภท? กระบวนการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมของแต่ละพื้นที่ จะมีหลายปัจจัยที่ทำให้โรงงานมีความแตกต่างกัน เช่น การออกแบบระบบ, เครื่องจักร, เครื่องมือ และอุปกรณ์ เป็นต้น จึงทำให้เครื่องดูดควันเชื่อมมีทั้งหมด 3 ประเภท เพื่อความเหมาะสมของพื้นที่หน้างาน คือ 1

พัดลมอุตสาหกรรมกินไฟไหม? คุ้มค่าต่อการใช้งานจริงหรือไม่

“พัดลมอุตสาหกรรมกินไฟไหม?” เรียกได้ว่าเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่กำลังสนใจ อยากจะนำพัดลมอุตสาหกรรมไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นภายในอาคารหรือภายนอกอาคาร เพราะต้องการพัดลมที่สามารถส่งแรงลมได้ทั่วถึงทั้งพื้นที่ จะได้มีอากาศหมุนเวียนได้สะดวก และช่วยระบายอากาศได้ วันนี้ Yushi Group จะมาพาคุณมาหาคำตอบว่าพัดลมอุตสาหกรรมเกิดการกินไฟสูงหรือไม่ และถ้าหากลงทุนซื้อมาใช้งานจะคุ้มค่าหรือเปล่า เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจต่อการซื้อมาใช้งานของคุณ   พัดลมอุตสาหกรรม คืออะไร? มีทั้งหมดกี่ประเภท คำว่า “พัดลมอุตสาหกรรม” ในความคิดของใครหลายคนอาจจะเข้าใจว่า เป็นพัดลมที่ถูกนำไปใช้ภายในโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วเป็นพัดลมที่สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ แต่จะต้องเป็นบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง เพราะพัดลมอุตสาหกรรมมีลักษณะที่เหมือนกับพัดลมทั่วไป เพียงแต่ใบพัดจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า และมีการออกแบบให้มั่นคงเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำไปใช้งาน โดยในปัจจุบันนี้พัดลมอุตสาหกรรมมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ และมักจะเป็นใบพัดลมสีดำที่มีคุณสมบัติโดดเด่นมากกว่าใบพัดสีน้ำเงินกับสีแดง จึงทำให้ตอบโจทย์กับการนำไปใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีทั้งหมด 3 ประเภทหลัก คือ พัดลมตั้งพื้นแบบเคลื่อนที่ พัดลมรุ่นตั้งพื้นปรับแหงน ใบพัดเป็นอะลูมิเนียมมีความแข็งแรงทนทาน  สามารถปรับได้ 135 องศา พัดลมรุ่นตั้งพื้นปรับแหงน-ส่าย ใช้มอเตอร์ลูกปืนจะช่วยลดโอกาสในการเสียดสี สามารถปรับได้ 135 องศา พัดลมรุ่นตั้งพื้นปรับแหงนมีล้อ มีใบพัดขนาดใหญ่พิเศษ จึงมีล้อเลื่อนเพื่อความสะดวก ปรับได้ถึง 360 องศา พัดลมตั้งพื้นแบบมีขา พัดลมรุ่น EC Motor

พัดลมยักษ์ กินไฟไหม? เปิดทั้งวันได้หรือไม่ มาหาคำตอบกัน!

ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่ต้องการให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก และลดความร้อนสะสมภายในอาคาร การติดตั้ง “พัดลมยักษ์” จึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างตรงจุด แต่สำหรับใครที่กำลังกังวลว่าพัดลมจะกินไฟสูง และถ้าหากเปิดใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อใดๆ หรือไม่ วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จักกับการทำงานของพัดลมยักษ์ เพื่อให้คุณเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นว่าพัดลมมีกระบวนการในการทำงานเป็นอย่างไร มีอัตราในการนำไฟฟ้าไปใช้อยู่ที่ปริมาณเท่าไหร่ และสามารถเปิดพัดลมทั้งวันได้หรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปหาคำตอบกันเลย!   รูปแบบการทำงานของพัดลมยักษ์ พัดลมยักษ์มีการทำงานของความเร็วลมแบบ HVLS (High Volume Low Speed) ทำให้ทิศทางลมเป็นการตกกระทบลงสู่พื้นอย่างช้าๆ เนื่องจากมีการติดตั้งพัดลมบนเพดาน ถ้าเป็นพื้นที่ปิดลมจะไหลจากพื้นไปยังผนังของอาคาร แล้วหมุนเวียนขึ้นสู่ด้านบนอีกครั้ง สำหรับพื้นที่เปิดจะมีลมบางส่วนยังคงหมุนเวียนในอาคาร และสามารถไหลออกสู่ภายนอกได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ปิดหรือเปิดก็สามารถสร้างกระแสลม เพื่อเป็นการช่วยให้มีอากาศหมุนเวียน และลดความร้อนสะสมภายในพื้นที่ โดยพัดลมยักษ์จะมีมอเตอร์อยู่ 2 ประเภท AC Motor Fan มอเตอร์จะมีขนาดใหญ่ เพราะที่ตัวเครื่องมีการใช้มอเตอร์ควบคู่กับเกียร์ จึงทำให้การทำงานของพัดลมสามารถผลิตทั้งแรงลมและปริมาณของลมได้อย่างดีเยี่ยม โดยการหมุนเวียนของทิศทางลมเป็นแบบ 360 องศา มีการเลียนแบบลมธรรมชาติ DC Motor Fan รูปทรงของมอเตอร์จะมีขนาดเล็กกว่า เพราะการทำงานของพัดลมไม่ต้องติดตั้งคู่กับเกียร์ และไม่ต้องเสียเวลาให้ยุ่งยากกับการซ่อมบำรุง

ระบบ Evap มีกี่รูปแบบ? สร้างลมเย็นลดความร้อน แบบไหนใช่คุณ!

สำหรับพื้นที่ที่มีอากาศร้อน และเป็นพื้นที่แบบเปิดโล่ง การจะทำความเย็นภายในอาจเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากข้อจำกัดหลายอย่าง หากจะใช้เครื่องปรับอากาศแบบปกติ อาจจะไม่ตอบโจทย์มากนัก โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก แต่ถ้าใช้ ระบบ Evap ก็จะสามารถทำความเย็น เพื่อลดความร้อนภายในได้ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการทำความเย็นในพื้นที่โล่งอย่าง งานนิทรรศการ งานโรงเรือน งานเกษตรต่างๆ ซึ่งระบบอีแวปเป็นระบบที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกัน วันนี้ Yushi Group จะมาแนะนำรูปแบบของระบบอีแวปให้คุณรู้จักกัน ถ้าคุณต้องการระบบทำความเย็นขนาดใหญ่ ที่สามารถใช้ในพื้นที่เปิดได้ต้องไม่พลาดบทความนี้เลย! ระบบอีแวป (Evap) คืออะไร ? ก่อนอื่นมาทำความรู้จักระบบอีแวปกันก่อนดีกว่า หลายคนที่ไม่ได้รู้จักระบบนี้มาก่อน อาจจะสงสัยว่าระบบอีแวปคืออะไร จริงๆ แล้วระบบอีแวปก็คือระบบในการทำความเย็นภายในพื้นที่เปิดโล่ง ในการทำความเย็นภายในเพื่อลดความร้อน โดยจะใช้พัดลมในการทำความเย็น ซึ่งจะใช้การแลกเปลี่ยนความร้อนโดนอาศัยการระเหยของน้ำ จากแผ่น Cooling Pad ในการดูดน้ำขึ้นมา และระเหย เพื่อลดความร้อนของอากาศโดยรอบ และเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศภายใน เป็นผลทำให้อากาศภายในเย็นขึ้นมา แม้ว่าจะเป็นพื้นที่เปิดก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่ระบบอีแวปต่างจากระบบอื่นก็คือ การควบคุมความชื้น และควบคุมอุณหภูมิภายใน เพราะว่าหลักการทำงานของระบบอีแวป จะใช้การพาความร้อนออกไปข้างนอก โดยใช้การระเหยของน้ำ และพัดลมจะทำการดูดอากาศร้อน จึงทำให้เมื่อใช้งานระบบอีแวป จะช่วยลดอุณหภูมิ และเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์

พัดลมยักษ์ ให้ทิศทางลมแบบไหน​ ช่วยระบายอากาศได้จริงหรือไม่?

สำหรับใครที่ทำโรงงานอุตสาหกรรม ฟาร์ม โรงเรียน หรือโกดังสินค้า รวมถึงสถานที่ ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ หรือมีคนจำนวนมาก มักเลือกใช้พัดลมในการระบายความร้อนภายในอาคาร แต่เพราะพื้นที่เหล่านี้มีขนาดใหญ่เลยทำให้ พัดลมแบบธรรมดาอาจจะไม่เพียงพอ จึงทำให้หลายคนนิยมใช้ พัดลมยักษ์ ซึ่งเป็นพัดลมขนาดใหญ่แทน เนื่องจากพัดลมยักษ์เป็นพัดลมขนาดใหญ่ จึงทำให้หลายคนคิดว่า พัดลมขนาดใหญ่น่าจะสามารถระบายอากาศได้ดีกว่าพัดลมขนาดเล็ก นอกจากนั้นพัดลมยักษ์ทำอะไรได้บ้าง และให้ทิศทางลมแบบไหน วันนี้ Yushi Group จะมาไขข้อสงสัย ใครที่กำลังจะเลือกซื้อพัดลมยักษ์ไม่ควรพลาด ไปอ่านบทความกันเลย!!   พัดลมยักษ์ ความสำคัญอย่างไร ? หลายคนอาจจะคิดว่าพัดลมยักษ์ ก็แค่พัดลมขนาดใหญ่ แต่จริงๆ แล้วพัดลมยักษ์ไม่ได้มีดีแค่ขนาดตัวเท่านั้น เพราะพัดลมยักษ์เป็นพัดลมที่จะช่วยเรื่องของการไหลเวียนของอากาศ เนื่องจากแรงลมที่ได้จะต่างไปจากพัดลมทั่วไป และตัวมอเตอร์ของพัดลมก็ยังส่งผลต่อการใช้งาน เพราะมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นมอเตอร์กระแสสลับ (AC Motor) และมอเตอร์กระแสตรง (DC Motor) ที่จะต่างกันตรงที่ มอเตอร์กระแสสลับ (AC Motor) จะมีขนาดตัวเครื่องใหญ่กว่า และตัวมอเตอร์จะใช้งานร่วมกับเกียร์ จะส่งลมไปได้ครอบคลุมมากกว่า มอเตอร์กระแสตรง (DC Motor) ขนาดตัวเครื่องจะเล็กกว่า จะช่วยเรื่องการประหยัดพลังงาน และไม่ค่อยมีปัญหาเสียงรบกวน พัดลมยักษ์จะช่วยเรื่องของการประหยัดพลังงาน