Ventilation System แปลว่า ระบบระบายอากาศ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีการวางระบบตั้งแต่การก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เพราะมีความสามารถในการช่วยลดอุณหภูมิสูง กำจัดความชื้น ลดควันพิษ และป้องกันการเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ จากการสร้างสภาพแวดล้อมของการทำงานที่ดี สำหรับใครที่กำลังรู้สึกหรือกังวลว่า โรงงานไม่ได้มีอากาศหมุนเวียนอย่างเหมาะสม วันนี้ Yushi Group ขอแนะนำการติดตั้งระบบระบายอากาศภายในโรงงานที่คุณควรจะรู้ ว่ามีการทำงานเป็นอย่างไร มีทั้งหมดกี่รูปแบบ สามารถนำอุปกรณ์อะไรมาช่วยสร้างปริมาณลมได้บ้าง เพื่อเป็นการทำให้คุณได้รู้จักกับระบบระบายอากาศมากยิ่งขึ้น การทำงานของระบบระบายอากาศ หากอธิบายให้คุณได้เข้าใจเกี่ยวกับระบบระบายอากาศแบบง่ายที่สุด คือ นำอากาศบริสุทธิ์ดันอากาศที่ปนเปื้อนออกนอกพื้นที่ หลักการทำงานของระบบระบายอากาศ จะเป็นกระบวนการที่ช่วยจัดการให้มีอากาศหมุนเวียนในพื้นที่ โดยต้องมีการนำอากาศสะอาดไหลเข้าสู่อาคาร ในระดับที่เหมาะสมจนสามารถนำอากาศเสียไหลออกยังด้านนอก พื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรมต้องมีการติดตั้งระบบระบายอากาศเป็นอย่างยิ่ง เพราะสภาพแวดล้อมภายในจะต้องมีการควบคุมคุณภาพ ทำให้มีออกซิเจนที่เพียงพอ และลดความร้อนสะสมสูง เพื่อช่วยให้การผลิตในโรงงานมีประสิทธิภาพ การติดตั้ง ระบบระบายอากาศ ภายในโรงงาน รูปแบบของระบบระบายอากาศ วิธีการทำงานของระบบระบายอากาศ จะสามารถนำไปใช้ได้กับทุกพื้นที่ จึงทำให้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 รูปแบบหลัก ดังนี้ ระบบระบายอากาศแบบธรรมชาติ เป็นหลักการที่นำกระแสลมธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ โดยอาศัยทั้งการออกแบบของอาคาร และทิศทางลม เพื่อทำให้อากาศที่เป็นมลพิษเจือจางลง ซึ่งความแรงของกระแสลมไม่อาจคาดเดาได้ เพราะเป็นลมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หากภายในพื้นที่ไม่ได้มีปริมาณลมที่เพียงพอกับความต้องการ จะต้องใช้วิธีกลที่มีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศเพิ่ม เพื่อเป็นตัวช่วยที่สามารถนำอากาศสะอาดเข้าสู่พื้นที่
Author Archives: admin
วิธีการป้องกันไม่ทำให้ภายในพื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรม เกิดควันและฝุ่นละอองปนเปื้อนอยู่ในอากาศ จนกลายเป็นมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง จะต้องมีการติดตั้ง เครื่องดูดควันเชื่อม เพื่อเป็นการช่วยกำจัดตั้งแต่แหล่งกำเนิด แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า เครื่องดูดควันเชื่อมแบบติดตั้งถาวรมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง ในบทความนี้ Yushi Group ได้ทำการรวบรวมเครื่องดูดควันเชื่อมรุ่นที่ไม่ควรพลาดไว้ เพื่อช่วยให้คุณสะดวกกับการพิจารณาซื้อ และแรงดูดมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทำให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด เครื่องดูดควันเชื่อมแบบติดตั้งถาวร คืออะไร? เครื่องดูดควันเชื่อมแบบติดตั้งถาวร จะมีวิธีการทำงานที่เหมือนกับเครื่องดูดควันเชื่อมแบบทั่วไป ที่สามารถทำการดูดควัน มลพิษ ความร้อน และฝุ่นละออง ได้จากงานเชื่อมหรืองานเจียร เพื่อเป็นการป้องกันไม่ทำให้อากาศเสียหรือปรับปรุงอากาศ เป็นตัวช่วยที่สร้างบรรยากาศของการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น แต่มีความแตกต่างในเรื่องการออกแบบ เพื่อความเหมาะสมของการนำไปใช้ในพื้นที่หน้างาน เพราะเครื่องดูดควันเชื่อมแบบติดตั้งถาวร จะต้องตั้งเครื่องประจำที่ เหมาะกับงานที่ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายอยู่บ่อยครั้ง รุ่นที่น่าสนใจของ เครื่องดูดควันเชื่อม แบบติดตั้งถาวร เครื่องดูดควันเชื่อมที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ เป็นแบรนด์ดังระดับสากลจาก Plymovent ที่ให้บริการเกี่ยวกับระบบกรองอากาศ ทำให้บรรยากาศของการทำงานสะอาด, ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีรุ่นดังต่อไปนี้ MonoGo เป็นเครื่องดูดควันเชื่อมแบบแขนเดี่ยว ที่ต้องมีการติดตั้งบนผนัง ไม่สามารถทำการเคลื่อนย้ายตัวเครื่องได้ แต่มีแขนดูดยาวสูงสุดถึง 4 เมตร รุ่น MonoGo มี 2
โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการปฏิบัติงาน จนเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษในพื้นที่ได้สูง การนำ ระบบ exhaust มาใช้ภายในโรงงาน จะช่วยปรับปรุงอากาศให้สะอาดมากยิ่งขึ้น โดยมีการจัดวางระบบให้เหมาะสม และมาพร้อมกับการติดตั้งพัดลมระบายอากาศอย่าง พัดลมไอเย็น (Evap) เพื่อให้ภายในพื้นที่มีอากาศหมุนเวียน ลดความร้อนสะสม และกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมาทำความเข้าใจและรู้จักกับระบบ exhaust ว่ามีหลักการทำงานเป็นอย่างไร มีทั้งหมดกี่รูปแบบ และเหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับการติดตั้งพัดลมไอเย็น เพื่อเป็นการช่วยให้คุณได้นำระบบไปใช้แล้วเกิดประโยชน์สูงที่สุด ระบบ exhaust คืออะไร? กระบวนการทำงานของระบบระบายอากาศ เป็นการทำให้ภายในพื้นที่มีอากาศหมุนเวียน โดยการเติมอากาศบริสุทธิ์ที่อยู่ด้านนอกเข้ามา เพื่อเจือจางมลพิษที่อยู่ด้านใน และทำการระบายอากาศเสียที่อยู่ด้านในออกไปยังด้านนอก ถือว่าเป็นการถ่ายเทอากาศ หรือเรียกว่าระบบ exhaust โดยการทำงานของระบบจะเหมาะสมกับพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, ฟาร์มปศุสัตว์, คลังสินค้า หรือโกดัง เป็นต้น แต่การที่จะสามารถระบายอากาศเสีย ต้องมีการออกแบบการทำงานของระบบภายในพื้นที่ พร้อมกับการติดตั้งพัดลมระบายอากาศ จะได้เป็นการเพิ่มปริมาณกระแสลม ทำให้มีประสิทธิภาพในการระบายอากาศ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ จากการกำจัดมลพิษที่ปนเปื้อนในอากาศ ไม่ทำให้เกิดการสะสมของความร้อนและความชื้นสูง การทำงานของระบบ exhaust มีกี่แบบ วิธีการทำงานของระบบ
การเป็นเจ้าของธุรกิจหรือกิจการที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม นอกจากสถานที่ปฏิบัติงานจะมีขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการทำงานภายในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม จะต้องมีการติดตั้งระบบระบายอากาศที่ช่วยลดความร้อน และกำจัดมลพิษด้านในอาคารได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ พัดลมฟาร์ม หรือ พัดลมอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญกับหน้าที่นี้ แต่สำหรับใครที่กำลังสงสัยระหว่างพัดลมฟาร์มกับพัดลมอุตสาหกรรมแตกต่างกันอย่างไร ทาง Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จักกับพัดลมทั้ง 2 ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างปริมาณลม มีการออกแบบและเลือกใช้วัสดุแบบใด รวมไปถึงสถานที่เหมาะสมกับการนำไปใช้ ถ้าพร้อมแล้วคุณจะต้องไม่พลาดกับบทความนี้! พัดลมฟาร์มคืออะไร? หากพูดถึงพัดลมที่นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมภาคการเกษตร ก็คงไม่พ้นพัดลมฟาร์ม เพราะนอกจากพัดลมจะมีขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถสร้างแรงลมในพื้นที่ได้แล้ว ยังถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับสถานที่นั้นอีกด้วย โดยขนาดของใบพัดลมจะมีขนาดใหญ่สูงสุดถึง 50 นิ้ว แต่ประสิทธิภาพของการลดอุณหภูมิในพื้นที่ จะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบในหลายด้าน เช่น ความสูงของอาคาร ทิศทางของลมที่ผ่านตัวอาคาร และความชื้นในพื้นที่ เป็นต้น พัดลมอุตสาหกรรมคืออะไร? ในพื้นที่ของโรงงานไม่สามารถขาดพัดลมอุตสาหกรรมได้ เนื่องจากเป็นตัวช่วยที่สำคัญของระบบระบายอากาศ โดยลักษณะของพัดลมอุตสาหกรรมจะไม่แตกต่างกับพัดลมทั่วไปเท่าไหร่นัก เพราะมีการทำงานของมอเตอร์ที่ช่วยให้ใบพัดหมุนจนเกิดกระแสลมขึ้นมา แต่จะมีขนาดที่ใหญ่มากกว่า เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณลมในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และต้องออกแบบพัดลมให้มีฐานที่มั่นคง แข็งแรง ปลอดภัยกับผู้ใช้งาน พัดลมฟาร์ม VS พัดลมอุตสาหกรรม แตกต่างกันอย่างไร ก่อนที่จะเริ่มทำการเปรียบเทียบระหว่างพัดลมฟาร์มกับพัดลมอุตสาหกรรม
การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์ จะต้องมีการทำระบบระบายอากาศ เพื่อให้สัตว์ไม่รู้สึกเครียดจากความร้อนที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ มีอากาศหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น และลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของมูลสัตว์ ถือว่าเป็นการป้องกันไม่ให้สัตว์เหล่านั้นเจ็บป่วยได้ง่าย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม พัดลมฟาร์ม ถึงเป็นไอเทมสำคัญที่ควรติดตั้งเอาไว้ภายในโรงเลี้ยงสัตว์ วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จักกับพัดลมฟาร์ม ว่ามีหลักการทำงานเป็นอย่างไร เหมาะกับการนำไปใช้ในสถานที่แบบไหน มีทั้งหมดกี่รูปแบบให้เลือกใช้ เพื่อเป็นการช่วยให้คุณได้เข้าใจถึงประโยชน์ของพัดลมฟาร์มมากยิ่งขึ้น พัดลมฟาร์ม คืออะไร พัดลมฟาร์มเป็นส่วนหนึ่งของพัดลมอุตสาหกรรม จึงเกี่ยวข้องกับระบบระบายอากาศ ช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก มีออกซิเจนหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น ลดความร้อนหรือความชื้นสะสมภายในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งลักษณะของพัดลมจะมาในรูปแบบที่ต้องติดตั้งเข้ากับผนัง เหมือนกับพัดลมดูดอากาศทั่วไปที่ใช้กัน แต่ขนาดใหญ่มากกว่าปกติเป็นพิเศษ จึงทำให้มีการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกัน เพื่อให้พัดลมฟาร์มมีความแข็งแรง ทนทานต่อทุกสถานการณ์ จากใบพัดวัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพเยี่ยม สามารถใช้งานได้ในระยะยาว ขึ้นชื่อว่าพัดลมฟาร์มจะนิยมนำไปใช้ในฟาร์มสุกรหรือฟาร์มเลี้ยงไก่ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ใช้กับโรงเลี้ยงสัตว์เท่านั้น เพราะขนาดที่ใหญ่กับความแข็งแรงของพัดลม ทำให้สามารถใช้ภายในพื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรม, โกดัง หรือคลังสินค้าได้เช่นกัน พัดลมฟาร์มเหมาะกับการนำไปใช้ในพื้นที่แบบใด การนำพัดลมฟาร์มไปใช้งานจะเหมาะกับพื้นที่มีขนาดใหญ่ เช่น โรงเรือนเลี้ยงสัตว์, ฟาร์มเกษตร, โรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้า เป็นต้น เพราะใบพัดจะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ (สูงสุด 50 นิ้ว) ทำให้สามารถสร้างปริมาณลมได้ดี เกิดการหมุนเวียนของออกซิเจน ช่วยลดความร้อนหรือความชื้นสะสมในพื้นที่ โดยการติดตั้งพัดลมฟาร์มจะต้องมีการคำนวณ
ประเทศไทยตั้งอยู่ในพื้นที่เขตร้อนชื้น มีโอกาสที่ผลผลิตจากพืชหรือสัตว์ในโรงเรือนได้รับผลกระทบ จึงทำให้ โรงเรือนระบบอีแวป นิยมใช้กันในอุตสาหกรรมภาคการเกษตร เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้อุณหภูมิอยู่ในสถานะคงที่ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความร้อนสูงหรืออากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังทำฟาร์มหรือมีฟาร์มอยู่แล้ว อยากจะนำระบบอีแวปไปใช้ภายในโรงเรือน แต่ไม่รู้ว่าจะเหมาะกับฟาร์มตัวเองหรือไม่ และต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร วันนี้ Yushi Group จะมาแนะนำการทำฟาร์มด้วยโรงเรือนระบบอีแวป ว่ามีสิ่งใดบ้างที่คุณควรจะรู้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวแบบเบื้องต้น ถ้าพร้อมแล้วคุณจะต้องไม่พลาดกับบทความนี้! ทำความรู้จักกับโรงเรือนระบบอีแวป โรงเรือนระบบอีแวปจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ‘โรงเรือน’ ที่มีการติดตั้ง ‘ระบบอีแวป’ เพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิภายในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะได้เหมาะสมกับการเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ โรงเรือน เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ทางอุตสาหกรรมในเชิงพาณิชย์เพื่อประกอบธุรกิจได้ ซึ่งการเลือกใช้วัสดุในการสร้างโรงเรือน จะขึ้นอยู่กับประเภทของการนำโรงเรือนไปใช้ เช่น ‘โรงเลี้ยงสัตว์’ มาในรูปแบบของการก่อสร้าง ที่ต้องทำการก่ออิฐ ฉาบปูน และมุงหลังคา เพราะต้องเน้นเรื่องของความแข็งแรง ส่วน ‘โรงปลูกพืช’ จะเป็นการสร้างโครงเหล็กขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นก็จะทำการล็อกหรือยึดพลาสติกเข้ากับโครงเป็นการคลุมทั้งพื้นที่ โดยลักษณะของหลังคาจะมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ได้แก่ หลังคาทรงจั่วชั้นเดียว เป็นทรงมาตรฐานที่นิยมสร้าง เพราะโรงเรือนสามารถมีขนาดใหญ่ได้ตามที่ต้องการ โดยมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อแสงแดดและฝน หลังคาทรงจั่วสองชั้น เหมือนกับหลังคาทรงจั่วชั้นเดียว เพียงแต่มีอีกชั้นด้านบน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการระบายอากาศให้ดีมากยิ่งขึ้น หลังคาทรงโค้ง จะนิยมนำไปใช้กับโรงเรือนที่มีการปลูกพืช เพราะมีรูปทรงที่สะดวกต่อการสร้าง
เครื่องดูดควันเชื่อม หรือ เครื่องดูดควันอุตสาหกรรม ถือว่าอุปกรณ์ประเภทหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ การปรับปรุงอากาศภายในพื้นที่ เพราะโรงงานที่มีการปฏิบัติงาน จากการเจียรหรือเชื่อมเหล็ก มักทำให้เกิดควันเชื่อมและฝุ่นละอองที่เป็นมลพิษขึ้นมา โดยก๊าซเหล่านั้นจะมีอนุภาคขนาดเล็ก ทำให้เกิดการสะสมอยู่ในอากาศ หากมีการสูดดมก๊าซหรือได้รับละอองเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับใครที่สนใจอยากจะติดตั้งเครื่องดูดควันเชื่อม แต่ยังไม่มั่นใจว่าควรมีติดเอาไว้ในพื้นที่ของโรงงานหรือเปล่า วันนี้ Yushi Group จะทำให้คุณได้เข้าใจถึงความสำคัญของเครื่องดูดควันเชื่อมมากยิ่งขึ้น โดยมีหลักการทำงานเป็นอย่างไร และการติดตั้งจะมีวิธีที่ยุ่งยากหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านบทความนี้กันเลย! อันตรายจากควันเชื่อม การทำงานในภาคของอุตสาหกรรมทั้งเบาและหนัก ไม่ว่าจะเป็น งานเชื่อม, งานเจียร และงานตัด เป็นต้น จะทำให้เกิด ‘ควันเชื่อม’ ขึ้นมา ซึ่งประกอบไปด้วยก๊าซและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เป็นอันตรายกับผู้ปฏิบัติงาน ดังนี้ ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (Nitrogen Oxide) เมื่อมีงานที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมจะทำให้เกิดก๊าซนี้ขึ้นมา ซึ่งส่งผลให้เกิดการระคายเคืองในตา จมูก และลำคอ ถ้าสูดดมก๊าซเป็นเวลานานอาจหมดสติได้ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) การทำงานที่เผาไหม้จากการเชื่อม ก๊าซนี้จะส่งผลให้หายใจไม่สะดวก มึนศีรษะ และหมดสติไป หากเกิดการสะสมในร่างกายในระยะยาวจะทำให้มีผลกระทบต่อการสืบพันธุ์ ก๊าซโอโซน (Ozone) เป็นก๊าซที่เกิดจากการตัดเหล็ก หรือเชื่อมสเตนเลส
หากคุณเป็นคนที่กำลังต้องการนำ พัดลมยักษ์ ไปใช้ในพื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่มีขนาดใหญ่และโปร่ง ทำให้เกิดกระแสลมที่เป็นธรรมชาติ ลดความร้อนสะสมในพื้นที่ และกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ แต่ยังคงกังวลในเรื่องของอายุการใช้งาน อยากจะให้พัดลมสามารถใช้งานได้ในระยะยาว เพื่อเกิดความคุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด วันนี้ Yushi Group จะมาช่วยคุณยืดอายุการใช้งานของพัดลมยักษ์ ด้วยวิธีการดูแลอย่างเหมาะสม โดยที่คุณจะต้องรู้ก่อนว่าพัดลมยักษ์มีการทำงานแบบใด มอเตอร์มีกี่ประเภท และควรตรวจสอบระบบไหนบ้าง ถ้าคุณเข้าใจทุกอย่างหมดแล้ว เพียงเท่านี้พัดลมยักษ์ก็จะมีอายุยาวนานมากที่สุด ทำไมถึงควรใช้พัดลมยักษ์? คุณสมบัติที่โดดเด่นของพัดลมยักษ์หรือ พัดลม Big Fan จะสามารถสร้างกระแสลมเย็นได้อย่างสบาย โดยทิศทางของลมกระจายเป็นบริเวณกว้าง ช่วยทำให้อากาศที่อยู่ภายในพื้นที่บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น เพราะสามารถกำจัดได้ทั้งควันและมลพิษ ลักษณะของการติดตั้งพัดลมยักษ์ จะติดอยู่ใต้หลังคาหรือที่เพดานของอาคาร จึงทำให้กระแสลมไล่จากด้านบนลงสู่ด้านล่าง และการทำงานเป็นแบบ HVLS (High Volume Low Speed Fan) ทำให้พัดลมมีรอบการหมุนที่ต่ำ แต่สามารถสร้างปริมาณลมได้ดี ช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตพัดลมยักษ์จะค่อนข้างมีความละเอียดอ่อน ตั้งแต่การออกแบบให้มีความลงตัว และการใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ‘ใบพัดอะลูมิเนียม’ หรือ ‘ใบพัดพอลิเมอร์คอมโพสิต’ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้มากกว่า 10
พัดลมโรงงาน ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ พัดลมยักษ์ ที่มีคุณสมบัติในการนำอากาศที่สะสมอยู่ภายในพื้นที่ ออกไปสู่ด้านนอกได้อย่างรวดเร็ว สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าพัดลมยักษ์ใช้งานคู่กับอะไร จึงจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จัก ว่าพัดลมยักษ์เหมาะกับการทำงานแบบใด และสามารถนำไปใช้คู่กับอะไรได้บ้าง รวมไปถึงการดูแลพัดลมยักษ์ที่ถูกต้อง คุณจะต้องไม่พลาดกับบทความนี้! พัดลมยักษ์เหมาะกับการทำงานแบบไหน? ลักษณะของพัดลมยักษ์จะคล้ายกับพัดลมเพดาน แต่ใบพัดมีความยาวมากกว่า (สูงสุดถึง 7 เมตร จากเส้นผ่าศูนย์กลาง) จึงเหมาะสมกับการนำไปใช้ในอาคารที่มีความสูงและกว้าง เพื่อเป็นการสร้างปริมาณลมได้เหมาะสม ลดความร้อนสะสมภายในอาคาร และกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี สามารถนำไปใช้ได้ทั้งกับอาคารเปิดโล่ง – อาคารปิด เป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ความสำคัญของการติดตั้งพัดลมยักษ์ จะต้องมีโครงสร้างของอาคารที่แข็งแรง จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการตกลงมาของพัดลม และต้องควบคุมการติดตั้งพัดลมใต้อาคารในทุกขั้นตอน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้ให้มั่นใจกับการใช้งาน พัดลมยักษ์ ใช้งานคู่กับอะไรดี? การใช้งานพัดลมยักษ์เพียงแค่อย่างเดียว ก็สามารถเพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศได้ดีอยู่แล้ว หากนำไปใช้คู่กับ พัดลมโรงงาน ประเภทอื่นๆ จะช่วยส่งเสริมในเรื่องของการระบายอากาศได้ดีมากขึ้น จะมีประเภทใดบ้างมาดูกัน พัดลมอุตสาหกรรมแบบฝังผนัง พัดลมอุตสาหกรรมแบบฝังผนัง จะไม่ทำให้ภายในโรงงานมีพื้นที่แคบลง เพราะการติดตั้งที่ไม่ต้องวางพัดลมให้เกิดการกินเนื้อที่ และป้องกันอุบัติจากการชนกับพัดลม ระหว่างที่กำลังปฏิบัติงาน มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2
ในพื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ ในบางโรงงานจะมีการติดตั้ง ระบบอีแวป (Evap) เพื่อไม่ให้พื้นที่ด้านในมีความร้อนสะสมอยู่มากจนเกินไป เพราะด้วยหลักการทำงานของระบบที่มีความสามารถในการลดอุณหภูมิ จึงทำให้ใครหลายคนต่างให้ความสนใจ แต่สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าระบบอีแวปดีอย่างไร วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จักกับระบบให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ เพื่อความเหมาะสมของพื้นที่หน้างาน ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านบทความนี้กันเลย! ระบบอีแวป คืออะไร ? ระบบอีแวปเป็นระบบทำความเย็นประเภทหนึ่ง ที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งความเย็นที่เกิดขึ้นนั้นไม่อาจเทียบเท่าได้กับเครื่องปรับอากาศ แต่ยังคงสามารถลดอุณหภูมิภายในพื้นที่ได้ 4 – 10 องศาเซลเซียส (ขึ้นอยู่กับพื้นที่หน้างาน) และอากาศที่นำมาใช้เป็นอากาศบริสุทธิ์ ช่วยให้ภายในอาคารมีออกซิเจนเพิ่มขึ้น โดยการผลิตระบบให้กลายเป็นพัดลมอีแวป จะมีอุปกรณ์หลักอย่าง แผ่นทำความเย็น, โครงรางน้ำ และตู้ควบคุม ที่มีหน้าที่การทำงานในการสร้างความเย็นที่เกิดขึ้นของน้ำ จึงทำให้กระบวนการทำงานไม่ซับซ้อน ทำความเข้าใจได้ง่าย ทำไมถึงต้องใช้งาน Evap ? นอกเหนือจากการทำงานของระบบอีแวปที่สามารถเข้าใจได้ง่าย และมีขั้นตอนการทำงานที่ไม่ยุ่งยาก ยังสามารถนำไปสร้างความเย็นได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อความเหมาะสมของการนำไปใช้ในพื้นที่หน้างาน ซึ่งรูปแบบของทิศทางที่สร้างความเย็น มีวิธีดังนี้ สร้างความเย็นแบบระบบปิด การทำงานที่ช่วยสร้างความเย็นแบบระบบปิด จะมีลักษณะของพื้นที่หรืออาคารที่ปิดสนิท เพื่อให้ความเย็นปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ แต่ยังคงต้องมีการติดตั้งพัดลมฟาร์ม เพราะการทำงานของระบบที่มีการใช้น้ำ