ด้วยวิธีคิดและการผลิตที่ต้องการให้พัดลมมีความทนทานในเกรด Heavy duty มากกว่าพัดลมโดยทั่วไป พัดลมอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับการใช้งานกลางแจ้งที่ต้องสามารถทนสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยให้พัดลมสามารถทำงานได้เป็นปกติ
พัดลมอุตสาหกรรมโดยลักษณะการออกแบบพื้นฐานแล้วจะมีการออกแบบจำเพาะที่แตกต่างออกไปจากพัดลมปกติโดยทั่วไป ทั้งในด้านการเลือกใช้วัสดุที่จะนำมาผลิต เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต มาตรฐานควบคุมตัวแปรในการผลิต แนวคิดในการทนต่อความสมบุกสมบันและมลภาวะในสภาวะแวดล้อมที่ไม่ใช่อยู่ในสภาวะปกติ นั่นเป็นแนวคิดพื้นฐานก่อนที่จะทำการผลิตพัดลมในรูปแบบของ “ พัดลมอุตสาหกรรม “ (Industrail fan)
พัดลมต้องทำงานภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีความร้อน ฝุ่นและควัน รวมทั้งความชื้นในบางพื้นที่ จากปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุของพัดลมอุตสาหกรรมโดยตรง
โดยหลักแล้วในโรงงานอุตสาหกรรมก็ต้องการใช้พัดลมเช่นเดียวกันกับภาคธุรกิจอื่น ๆ นั่นเป็นเพราะว่าการใช้พัดลมในการระบายอากาศและให้ความเย็นนั้นเป็นวิธีที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังลงทุนต่ำเมื่อเทียบกับระบบอื่นอีกด้วย ทั่วไปแล้วพัดลมที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับมลภาวะมากมายกว่าปกติ เช่น ความร้อน ฝุ่นควัน ความชื้น ตลอดจนการใช้งานที่มากกว่าพัดลมปกติมาก ทำให้พัดลมอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาวะแบบนี้ตั้งแต่ Original Design มีโอกาสที่จะเสียหายและชำรุดก่อนอายุขัยปกติแน่นอน
ซึ่งการผลิตพัดลมอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานสูง และมีวิทยาการของการผลิตที่ทันสมัยจะส่งผลให้พัดลมมีความทนทาน มีกำลังลมที่มากในขณะที่กินกระแสไฟฟ้าน้อย ส่งผลต่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำหน่วยลงทุนที่จะต้องไปลงในค่าพลังงานไปใช้กับการลงทุนอื่น ๆ ให้เกิดรายได้ตามมา
ปัจจัยที่สามารถเอื้อให้พัดลมอุตสาหกรรมของ “ Yushi “ เป็นพัดลมอุตสาหกรรมในลำดับต้นของผู้ผลิตพัดลมอุตสาหกรรมนั้น นอกจากการออกแบบจากทีมวิศวกรด้าน Ventilation แล้ว การเลือกอุปกรณ์ หรือ Components ที่จะมาเป็นส่วนประกอบในตัวพัดลม และการวิจัยในห้อง Lab ทางพลังงานมีผลอย่างมากในการทำให้พัดลมมีความแข็งแรงและประสิทธิภาพสูง อาทิ
การออกแบบใบพัดรูปทรง Airfoil ที่ออกแบบให้เลียนแบบใบพัดของเครื่องบิน โดยเมื่อใบพัดหมุนจะสร้างแรงยกไปด้านหน้าทำให้รูปแบบของลมที่ได้จะเป็นลักษณะของลมที่พุ่งออกไปในทางตรง ซึ่งจะได้ทั้งลมในปริมาณมากและยังได้ลมทางด้านหลังใบพัดเพื่อนำมาระบายความร้อนที่ท้ายของมอเตอร์ ทำให้มอเตอร์ไม่เกิดความร้อนสูงขณะทำงานที่รอบประสิทธิภาพสูงสุด
หรือจะเป็นการเลือกใช้เฟือง (Gears) ที่ใช้ขับเคลื่อนพัดลมในรูปแบบของเฟืองหนอน (Worm gear) และเฟืองตรง (Industril Spur gear) ที่ผ่านการคำนวณ Factors ของเฟืองแต่ละตัวให้บาลานซ์ รวมถึงกำหนดค่า Backlash ของเฟืองให้ต่ำที่สุดเพื่อให้เกิดความเงียบและทนทาน สารหล่อลื่นที่ใส่ก็ต้องเป็นเกรดที่สามารถทนแรงเสียดทานได้สูง ทนความร้อน
และส่วนที่เป็นหัวใจของพัดลมนั่นคือแกนมอเตอร์ แบริ่งและเส้นขดลวด วิศวกรผู้ผลิตพัดลมใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างมากในการทดสอบค่าประสิทธิภาพโดยกำหนดตัวแปร (Parameters) ต่าง ๆ เช่น การกำหนดค่าการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้า อุณภูมิ ตลอดจนส่วนผสมของทองแดง (%) และจำลองสภาวะการใช้งานที่ต่างกัน ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน ก่อนจะออกมาเป็นพัดลมอุตสาหกรรมที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดในตลาด ทั้งยังส่งเสริมการประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้เป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับพัดลมอุตสาหกรรมเกรดรองลงมา
เปรียบเทียบพลังงานไฟฟ้าที่ต้องใช้ต่อชั่วโมงเพื่อหาค่าประสิทธิภาพการประหยัดไฟฟ้าโดยใช้วัตต์มิเตอร์ที่ได้รับการ Calibration ในการชี้วัด
ทำให้พัดลมอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นที่นิยมทั้งในส่วนภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน และภาคของรัฐวิสาหกิจในสถานที่ต่าง ๆ ของทางราชการ โดยพัดลมอุตสาหกรรม “ Yushi “ สามารถนำมาใช้เป็นส่วนนึงของการระบายอากาศเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ร่วมกับระบบ Ventilation อื่น ในรูปแบบของ Hybrid ventilations system ได้อีกด้วย
อ่านต่อระบบ Hybrid Ventilatons